ที่สวนมีต้นไม้เยอะ บรรยากาศร่มรื่นเป็นที่สุด กล้วยไม้ออกดอกสวยมากเลย คุณปู่ (คุณพ่อน้าแพนด้า) เล่าว่าบำรุงด้วยฮอร์โมนธรรมชาติ คือใช้น้ำมะพร้าวจากลูกมะพร้าวที่ยังไม่มีเนื้อ ผสมกับนมสด และไข่ไก่ ผลลัพธ์คือได้กล้วยไม้ที่ออกดอกงามๆแบบนี้
ทีนี้เราเข้าไปเที่ยวในสวนกันดีกว่า ดูว่ามีผลไม้อะไรบ้างแดดร้อนมาก เราต้องนั่งรถอีแต๋นกางร่มกันไปนะครับ พร้อมอุปกรณ์สำคัญ..ตะกร้อสอยมะม่วง
เข้าสวนก่อนนะคร้าบ... (เห็นอีแต๋นเรารึเปล่า-สังเกตจากร่มสีม่วงอยู่ลิบๆ)
ในสวนมีต้นละไม ลูกคล้ายมะไฟ แต่รสชาติหวานหอมกว่า
ผลไม้ที่นี่สดสะอาดปราศจากสารเคมีใดๆ เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ออร์แกนิคกะเค้าเหมือนกัน (น้าแพนด้าว่าอันที่จริงคือปล่อยตามธรรมชาติ ให้เทวดาเลี้ยง)
มีมะม่วงพันธุ์ต่างๆ ทั้งเขียวเสวย (อร่อยม้ากกกก) อกร่อง(หอมหวาน) สามฤดู เจ้าคุณทิพย์(น้าหมอโจบอกว่าให้ลืมๆไปว่าเดิมมันมีชื่อพื้นๆว่ามะม่วงตับเป็ด) น้ำดอกไม้ ในรูปนี่น้าแพนด้าเรียกว่ามะม่วงไข่ไดโนเสาร์ครับขนุนก็แยะ ลูกที่สุกแล้วส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว ขนุนที่นี่เรียกอีกชื่อนึงว่าจำปากรอบครับ
แกะออกมาเป็นอย่างนี้ ..หวานกรอบชื่นใจ
ลูกโตนี้เป็นผลไม้ทางใต้ เค้า(น้าแพนด้า)ว่าเป็นผลไม้โปรดของท่านอดีตนายกชวน ชื่อลูกมะพูด รสชาติเป็นยังไงผมมะพูดดีกว่า ส่วนข้างๆกันที่ดูลูกจิ๋วไปเลยคือมะปรางหวานเจี๊ยบผมลุยสวน สอยมะม่วง เก็บมะปรางได้แค่แป๊บเดียว ชักไม่ไหวแล้วครับ ผมจาอ้วก เพราะกินข้าวเหนียวกับหมูสะเต๊ะเยอะไปหน่อย แดดก็ร้อน น้าๆกลัวผมอ้วกจริง รีบพาผมขึ้นอีแต๋นกลับมาพักผ่อนก่อน โอย..เหนื่อยจังอันนี้มะม่วงอกร่องทอง กินกับข้าวเหนียวมูนราดกะทิ น้าหมอโจซัดเรียบ!
นั่งพักแล้วเดินชมดอกไม้ต่อซะหน่อย
เมื่อได้เวลาอันสมควร ผมก็ลาคุณปู่คุณย่าคุณน้าคุณลุงกลับบ้านพร้อมมะม่วง ขนุน และลูกละไมอย่างละถุงใหญ่ ฮ่าๆๆ
และขอปิดท้ายด้วยรูปเจ้าถิ่นตัวจริง ...บ๊าย บาย