เดี๋ยวนี้ถนนนี้เป็นแหล่ง Hot Hit มากๆ ที่ดินตรว.ละ ประมาณ 8 หมื่นบาท !! (คุณครรชิตบอก) และโจโจ้เล่าว่าตอนก่อนกลับกรุงเทพ ไปแวะกินกาแฟที่ร้านบนถนนนิมมานเหมินทร์ เห็นประกาศบอกขายที่ดิน 300 กว่าตารางวา เลยโทรไปถามราคา โจโจ้แกล้งเล่าว่าเกือบซื้อแล้ว แต่ถามราคาเค้าอีกที ฟังเลขผิดไปหลักนึง นึกว่า 3.1 ล้าน แต่จริงๆเค้าขาย 31 ล้าน!
หลังอาหารเช้า เรา Check-out ห้องนึงก่อน ส่วนอีกห้องทางโรงแรมให้ Late Check-out ได้ถึงเวลาที่เราจะออกจากโรงแรมไปสนามบินเลย ..โรงแรมใจดี
จ่ายเงินแล้วขอใบเสร็จโรงแรมมาด้วย จะได้เอาไปหักภาษีเงินได้ตอนสิ้นปีตามนโยบายส่งเสริมเที่ยวเมืองไทยของรัฐบาล 555
จากโรงแรม นั่งรถประมาณ 20 นาทีก็ถึงบ้านถวาย เป็นแหล่งขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ราคาไม่แพง แต่เรายังไม่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์อะไร เลยดูพวกของกระจุกกระจิก ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เป็นของที่ระลึกที่ทำจากไม้ และเวลาที่เราไปถึงร้านค้าเปิดกันอยู่แค่ไม่กี่ร้าน เงี๊ยบเงียบ
กลับเข้าเมือง แวะไปกินไอติมร้าน iberry อีกรอบ ที่นิมมานเหมินทร์ เชียงใหม่นี่เป็นร้านใหญ่เลย จัดร้านน่ารักน่านั่ง ทั้งส่วน indoor และ outdoor
ซื้อของที่ระลึกแล้วขอลายเซ็นเจ้าของร้านต่อ |
ออกจาก iberry แวะไปร้านสุริยันจันทรา ซอยนิมมานเหมินทร์ 1 ที่เราไปนั่งดูของ นั่งคุยอยู่นานเมื่อเย็นวันก่อน
เราไปถึงเที่ยงกว่า ร้านปิดพักเที่ยง เพราะเจ้าของเค้าขายเองอยู่คนเดียว เดิมมีลูกจ้าง และกิจการดีมาก แต่ปลายปีที่แล้วเจ้าของเค้าถูกโกง แทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ (อ่านจาก Blog ของสุริยันจันทรา) แต่พวกศิลปินทั้งหลายที่ผลิตงานให้ยังให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ส่งผลงานศิลปะ ทั้งภาพเขียน งานปั้น.. มาให้ขายที่ร้านอยู่
เราไปถึงเที่ยงกว่า ร้านปิดพักเที่ยง เพราะเจ้าของเค้าขายเองอยู่คนเดียว เดิมมีลูกจ้าง และกิจการดีมาก แต่ปลายปีที่แล้วเจ้าของเค้าถูกโกง แทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ (อ่านจาก Blog ของสุริยันจันทรา) แต่พวกศิลปินทั้งหลายที่ผลิตงานให้ยังให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ส่งผลงานศิลปะ ทั้งภาพเขียน งานปั้น.. มาให้ขายที่ร้านอยู่
บรรยากาศในร้าน |
ภาพเขียนสวยๆทั้งนั้น น่ารักน่าซื้อ |
ร้านปิด เราก็เลยไปกินข้าวก่อน มื้อนี้เป็นอาหารจีนที่ร้านเหมยเจียง ช้างคลานพลาซ่า ติดโรงแรม Shangri-la ร้านนี้หลายคนแนะนำ เสียดายว่าไม่มีติ๋มซำอ่ะ ถ้าจะกินติ๋มซำต้องกินร้านแยงซีเจียง นิมมานเหมินทร์ซอย 5 เจ้าของเดียวกับเหมยเจียง คุณพี่โอบอกว่าเจ้าของร้านเค้าจะอยู่มี่แยงซีเจียงประจำ
น้องมิขอแวะร้านรองเท้า เป็นร้านเล็กๆ เจ้าของออกแบบรองเท้าเอง เล่าว่าไปเรียน Footwear Diploma มาจากอังกฤษ ชื่อร้าน Palmy อยู่นิมมานซอย 5 หรือ 7 นี่ละ ต้นๆซอย
แล้วก็...แวะกินเค้กกันอีกแล้ว เราต้องมี Coffee Break กินน้ำชากาแฟกับขนมกันทุกบ่าย :)
ตอนแรกจะแวะร้าน Cake Cottage ซอยศิริมังคลาจารย์ แต่ไปถึงร้านบ่าย 2 โมงกว่า ร้านปิดมืดแล้ว คนในร้านบอกว่าวันนี้ขายหมดแล้ว!!
เราจึงต้องแวะร้าน Mont Blanc ริมถนนนิมมานเหมินทร์แทน เค้กใช้ได้ แต่ chocolate เย็นไม่หร่อย หวานเกิน
ออกจากร้านเค้กสี่โมงเย็น วันนี้วันอาทิตย์ ถนนท่าแพมีปิดถนนทำถนนคนเดินให้คนเอาของมาขาย น้าจ้อยกับหลานมิอยากไป แต่คนอื่นๆขอกลับไปพักที่โรงแรมก่อนที่จะออกเดินทางไปสนามบินตอน 6 โมงเย็น เราเลยไปเดินท่าแพกัน 2 คน เดินประมาณชั่วโมงนึงก็กลับ
Check-out แล้วก็เดินทางไปสนามบิน
จากโรงแรมไป Airport ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น สะดวกดี
สายการบิน Bangkok Airways มี Passenger Lounge ให้นั่งรอขึ้นเครื่อเช่นเคย แต่ที่สุวรรณภูมิดีกว่านะ ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรให้เลือกกิน
ของฝากที่กาดหลวง
ไส้อั่วเม็งราย - มีคนเคยแนะนำพ่อให้ซื้อยี่ห้อนี้ตั้งแต่สมัยพ่อยังไม่ปลดเกษียณน่ะเจ้านี้ Seal ใส่ห่อสุญญากาศมาอย่างดี ห่อละครึ่งกิโล สะดวกมาก ที่ Chiang Mai Airport ก็มีขาย ซื้อแล้วหิ้วขึ้นเครื่องบินได้เลย ราคาจะแพงกว่าในเมืองนิดหน่อย
กาละแม เมื่อได้กินของสมุยแล้ว ของเชียงใหม่ชิดซ้าย พูดแล้วอยากกินกาละแมหินตาหินยายจังงงง.. ทั้งเหนียวทั้งหอมน้ำตาลมะพร้าวมากๆ แล้วที่ซื้อเชียงใหม่นะ ตอนให้เราชิมก็นิ่มเหนียวดี แต่ห่อที่ใส่ถุงส่งให้เราตอนซื้อนี่สิ ไม่หนืดเลย เหม็นหืนอีกต่างหาก
อื่นๆก็แล้วแต่ชอบ มีทั้งของสด ของ แห้ง ไส้อั่ว แคบหมู จิ๊นปิ้ง น้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว ผัก ผลไม้
ถ้าแวะกาดหลวงก็อย่าลืมไปเดินซอกซอยตรอกเหล่าโจ๊วด้านหลังตลาดด้วย หนุกดี ของถูกด้วย