Joy on the Blog: Summer in Hokkaido (3/5): Beautiful Flowers at Furano

บันทึกการเดินทางเสาะหาวิวสวยๆ และอาหารอร่อย ในฤดูร้อนของเกาะฮอกไกโด
ความเดิม:
ตอนที่ 1
Summer in Hokkaido (1/5): Noboribetsu Onsen – Lake Toya – Mt.Usu/Mt.Showa-Shinzan
ตอนที่ 2
Summer in Hokkaido (2/5): Day Trip to Otaru

เริ่มวันด้วย Set อาหารเช้าที่ร้านกาแฟใน JR Sapporo Station

สายวันที่ 5 สิงหา 56
เราเล่ารึยังนะ ว่าปุ๊ยเค้าต้องซื้อรองเท้าใหม่ที่สุวรรณภูมิละ
เพราะรองเท้าที่เธอใส่มาจากบ้าน พอถึง Airport ปุ๊บ พื้นรองเท้าค่อยๆร่วงแตกออกมาตามทางเลย
เบอร์ที่ใส่ได้ มีคู่สีสดใสนี้อยู่คู่เดียว (เด๋วจะหารูปรองเท้ามาโชว์นะ ฮิฮิ)

ตอนนี้เราอยู่บนรถ ขับจาก Sapporo ไปดูแปลงดอกไม้ที่เมืองชื่อ Biei และ Furano

เมือง Biei และเมือง Furano เป็นแหล่งท่องเที่ยงยอดนิยมของการไปเที่ยวฮอกไกโดช่วงฤดูร้อน เพราะเป็นแหล่งปลูกดอกไม้สวยๆ ตามที่เราเห็นภาพจากในหนังสือและนิตยสารต่างๆนั่นเอง

ระยะทางจาก Sapporo ถึง Furano 150kms โดยประมาณจ้ะ

วันนี้แดดแรงอีกเช่นเคย

ปวดฉี่อีกแล้วชั้น :(

คืนวันที่ 5 สิงหา 56
วันนี้ที่ไปเที่ยวสวนดอกไม้กันมา สนุกดี
ตั้ง GPS ไปที่ Farm Tomita กันเลย
มีส่วนที่ขายแต่ Yubari Melon อย่างเดียว
ไปชิมกัน ชิ้นละ 250 เยน

หอมหวานอร่อย สมคำร่ำลือจริงๆ

เรากินอาหารกลางวัน กินขนมในฟาร์ม Tomita ไปเลย ฟาร์มใหญ่มาก นักท่องเที่ยวเยอะมากด้วย
มีไอติม Softcream รส Lavender สีม่วงสวยเชียว อร่อยด้วย
อาหารกลางวันเป็นแบบ healthy ดีนะ เป็นข้าวราดแกงกะหรี่ใส่ผักต่างๆผลผลิตจากฟาร์ม แครอท ฟักทอง มัน กระเจี๊ยบ หัวหอม
มีสลัดถั่วน่าจะเรียก Chicpea และข้าวโพด ถั่วแดงเม็ดใหญ่
น้ำดื่มยังเป็น Lavender Lemonade สีม่วงอ่อนๆ สีสวย และอร่อยอีกแล้ว :)

โอ้เอ้ซื้อของ ดูดอกไม้กันถึงสี่โมงเย็น ถึงได้ขับรถไปอีกเมืองที่อยู่ติดกัน ชื่อเมือง Biei ชมวิวต่อ

วิวสวยมาก วันนี้เราเที่ยวชม Patchwork Route ก่อน พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาค่อยไป Panorama Route ต่อ

การท่องเที่ยวเค้าเก่งมาก ทำให้เส้นทางขึ้นเนินลงเนิน มีต้นไม้ธรรมดาๆ ต้นต่างๆ ที่อยู่ห่างกันเป็นกิโลๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้คนแวะชมได้แล้ว

ต้นพ่อแม่ลูก ..เราไม่ได้ไปต้นนี้ ขับรถเลย
เพราะฉะนั้นก่อน Key Destination ใส่ใน GPS ควรเปิด Map ดูก่อนว่าจุดที่เราจะไปอยู่ตรงไหน เพราะเรา Key ชื่อต้นไม้อันนึงไป ให้ GPS พาไป แต่เราไม่รู้ว่าระหว่างทางเราจะผ่านจุดชมวิวอื่นก่อน
อีกต้นเป็นต้นที่ถ่ายโฆษณาบุหรี่ (ต้นที่เป็นพุ่มใหญ่ๆ)

อีกต้นถ่ายโฆษณารถ Nissan เมื่อปี 1972

ตอนนี้ถึงโรงแรมที่พักในเมือง Furano แล้ว ชื่อโรงแรม Natalux

เพิ่งรู้ตอนรอปุ๊ย Check-in นี่แหล่ะ ว่าโรงแรมนี้คือโรงแรมที่ใช้ถ่ายเกาหลีซีรีย์ เรื่อง Love Rain เป็นสถานที่ที่นางเอกยุนอาเจอกะพระเอกจางกึนซ๊อกนั่นเอง (ดีใจ มี Story ให้ตื่นเต้น)

อากาศสบายจัง แต่เมืองเงียบเชียบมาก พอดึกหน่อยไม่มีคนเดินบนถนนเลย

เราไม่ได้อ่านเตรียมตัวมาก่อนว่าแถวนี้มีอาหารอะไรอร่อยน่ากิน เลยไปกินร้านโซบะติดกับโรงแรมที่โจโจ้พัก

ร้านโซบะ

ก็อร่อยดี แต่ถ้ารู้จักร้านอื่น คงได้กินอร่อยกว่านี้

อันที่จริงๆ รอบๆโรงแรมมีร้านอาหารที่เค้าว่าอร่อยๆ อยู่หลายร้าน ถ้านึกไม่ออก น่าจะถามที่ Front Desk ดูท่าจะ Work กว่า
จนกลับกรุงเทพมาแล้ว ถึงนึกได้ว่าน่าจะไปกินข้าวห่อไข่ ร้านที่นางเอกยุนอาพาพระเอกจางกึนซ๊อก เนเรื่อง Love Rainไปกิน

พรุ่งนี้จะเที่ยว Biei ต่อ แต่จะขับรถชมอีกเส้นทาง คือ Panoramic Route
แล้วก็จะกลับเข้าไปนอนที่ Sapporo ที่โรงแรม Best Western Fino เหมียนเดิม

สายๆวันที่ 6 สิงหา 56
เราเพิ่งอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
ทั้งที่รู้ว่าชั้นไม่ชอบอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น แต่พอเค้าให้เลือกระหว่าง Japanese Style กับ Western Style ก็ดันเลือก Japanese จนได้
แต่ทั้งอาหารแบบยุ่นและแบบฝรั่ง ต่างได้กินนมสด Hokkaido แสนอร่อยคนละ 1 ขวดเล็ก

เดี๋ยวต้อง Check Out ก่อน 10 โมง
อากาศแจ่มใสตามเคย แดดเปรี้ยงเชียว

วันนี้เราเริ่มออกเดินทางโดยตั้ง GPS ไปที่ Blue Pond

ถัดจาก Blue Pond ไปประมาณ 3 กิโลกว่าๆ จะเป็นน้ำตก Shirohige-no-taki สวยมาก
จอดรถที่โรงแรมตรงหัวมุมถนน แล้วเดินไปทางซ้ายนิดเดียวจะเป็นสะพาน มองลงไปจากสะพานก็เป็นน้ำตกนี้เลย

คำเตือน: เดินไปสุดสะพานจะเห็นบันไดทางขึ้นภูเขา เราก็คิดว่าขึ้นไปข้างบนนู้นคงจะเห็นวิวน้ำตกเจ๋งๆ เดินขึ้นกันไปหอบกันไป ขึ้นจนสุดทาง กลายเป็นลานจอดรถ ไม่เห็นไรเลย
เดินกลับจากน้ำตก แวะเข้าห้องน้ำที่โรงแรม อุดหนุนตู้น้ำหยอดเหรียญของโรงแรมแล้ว เราก็เดินทางต่อ ไปยัง ShikisaiHIll ปุ๊ยบอกว่าแปลว่าเนินเขา สีสันของสี่ฤดู ที่นี่อยู่บน Panoramic Road และมีตุ๊กตาฟางตัวโตเป็นสัญลักษณ์

Lavender Softcream ที่นี่อร่อยสู้ที่ Farm Tomita ไม่ได้

ทุ่งดอกไม้สวยกว่าที่ Farm Tomita อีก

เดินไปมาดูดอกไม้ แถมเดินหาโจโจ้กะลุงกบอยู่ตั้งนาน ทั้งสองไปซุ่มหลบแดดอยู่ไม่ไกล แต่เราหาไม่เจอ มีแต่สัญญาณ wifi ที่จะแรงขึ้นมานิดนึงตอนเราเดินเฉียดไปใกล้ หากันจนหิว
จึงเป็นเวลาเลือกสถานที่กิน เราขอมุ่งไปที่ Farm Restaurant Chiyoda ซึ่งอยู่บน Panoramic Road นี้เช่นกัน อ่านจากหนังสือนำเที่ยวของปุ๊ย เค้าว่า Restaurant ของ Farm จะเปิดแค่ช่วงฤดูร้อนประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น ต้องกินให้ได้!

เราสั่ง Chiyoda Steak Set เป็น Steak เนื้อโคขุนของฟาร์ม เลี้ยงด้วยอาหารที่ผสมเหล้าสาเก ผักออร์แกนิคปลูกเอง ขนมปังอบใหม่กินกับเนยสดทำเองอีก อร่อย!!!