ป้ากับน้ากินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ หน้าทางเข้าตลาดวโรรส ฝั่งตรอกเหล่าโจ๊ว ตรงข้ามกับศาลเจ้า อร่อยมากทั้งน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋เลยเชียว
ส่วนเด็กๆไม่ยอมกิน รอจะไปกินปาท่องโก๋สัตว์ประหลาด โกเหน่ง ซึ่งต้องเดินทะลุไปออกอีกฝั่งของตลาด ถนนมีรถสองแถว รถส่งของจอดเยอะเลย หน้าปากซอยร้านปาท่องโก๋โกเหน่งมีสาขาธนาคารธนชาติ (คิดว่าใช่นะ)
กำลังทำปาท่องโก๋ไดโนเสาร์ของก๊าบ ผลงานเมื่อเสร็จเรียบร้อย ช้างของน้องมิ โกเหน่งใจดี ทำรูปจระเข้ให้ดูด้วย |
แผงขายพู่น่ารักในซอกซอย |
เรามุ่งหน้าไปดูหลินปิง แต่ทั้งหลินปิงทั้งหลินฮุ่ย นอนหลับกันทั้งแม่ทั้งลูก
หลินฮุ่ยนอนมุมซ้าย หลินปิงหลับหันหลังให้ทางมุมซ้าย - เห็นมั้ย? |
อิ่มแล้วก็ต้วมเตี้ยมไปนอนพาดขอนไม้ แกว่งขาสบายใจเชียว
หลินฮุ่ยหลินปิงไม่ยอมตื่น เราเลยนั่ง Shuttle Bus ไปที่ Aquarium ดูสัตว์น้ำ สนุกดี คนไม่เยอะ (ดีด้วย ได้ตั๋วแบบ ซื้อ 1 แถม 1)
บริเวณหน้า Aquarium ตู้ปลาสวยดี อุโมงค์กระจก |
สวนสัตว์เชียงใหม่ต้นไม้สวย ร่มรื่น และเนื้อที่กว้างขวางมากๆ แค่นั่งรถของสวนสัตว์ ฟังคนขับรถบรรยายยังตั้งนานแน่ะ กว่าจะครบรอบมาจบที่จุดตั้งต้นหน้าประตูสวนสัตว์ แล้วคนขับรถแต่ละคันเค้า entertain ผู้โดยสารเก่งมาก พูดตลกๆให้คนฟังไม่เบื่อ คอยชี้ชวนให้ดูสัตว์ต่างๆ แค่นั่งรถดูรอบสวนสัตว์ก็สบายดี ไม่ต้องเดินเยอะ
กลางวันไปกินข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว ที่ร้านลำดวน ถนนฟ้าฮ่าม อร่อยอีกแระ (อ่านมาว่าร้านนี้มีสาขาที่กรุงเทพด้วย อยู่ซอยวิภาวดี 58 ถนนวิภาวดี-รังสิต)
ขนมจีนน้ำเงี้ยว ร้านลำดวน |
ตอนบ่ายน้องมิน้องก๊าบอยากไปจับลูกเสือเล่นที่คุ้มเสือ อยู่ที่แม่ริม ค่าเข้าไปลูบคลำเสือแพงมากเลย
ถ้าลูกเสือขนาดเล็ก ค่าเข้าไปจับเล่น 520 บาท ต่อ 15 นาที!
ถ้าเสือขนาดกลางและขนาดใหญ่ ค่าเข้าไปลูบเสือ ถ่ายรูปกับเสือ 320 บาท
(คนคงอยากเล่นกับเสือเล็กมากกว่าเสือตัวใหญ่ เลยแพงกว่า)
ที่นี่มีแต่ฝรั่งมาเที่ยว ..ก็ราคาตั้งขนาดนี้อ่ะนะ
(เห็น Brochue ของสวนเสือศรีราชา ราคาถูกกว่านี้มาก)
น้องก๊าบเล่าว่าในห้องที่เค้าพาไปมีลูกเสือประมาณ 6-7 ตัว แต่ส่วนใหญ่มันนอนหลับกันหมด เพราะเสือจะนอนเฉลี่ยประมาณวันละ 18 ชม.แน่ะ
แล้วลูกเสือรุ่นนี้ตัวมันก็ใหญ่เกินกว่าจะอุ้มไหวแล้วด้วย
หมีแพนด้าคงนอนเยอะพอๆกัน เพราะหลินฮุ่ย หลินปิงหลับกันคร่อก ช่วงช่วงกินอิ่มก็หลับต่อทันที
อันนี้เป็นรูปที่เด็กๆถ่ายมา
ลูกเสือหน้าตางงๆ |
ที่บริเวณ Lobby มีตู้ปลา Spa เท้าให้ทดลองใช้บริการ มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นต่างชาตินั่งแช่เท้ากันนานมาก ไม่เลิกแช่กันซะที ตอนแรกว่าจะลองแช่เท้ามั้ง แต่ดูเด็กพวกนี้แช่แล้วไม่กล้าเอาเท้าแช่ต่อเลยเรา
พวกเสือขนาดใหญ่เราสามารถมองเห็นจากบริเวณ Lobby มองเห็นฝรั่งเข้าไปลูบเสือ ไปถ่ายรูปคู่ แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
คุณครรชิตเล่าว่าเคยมีนักท่องเที่ยวถูกขย้ำ เย็บตั้งหลายสิบเข็ม เห็นว่าเป็นเพราะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ที่เค้าดูแลเสือน่ะ แต่ถ้าเสือขนาดเล็กเรามองไม่เห็น เด็กๆต้องเดินไปด้านหลัง ถ้าให้มองเห็นได้ คนคงไม่เสียเงินเข้าไปเล่น
ออกจากคุ้มเสือ น้องก๊าบขอไปเที่ยวน้ำตกบ้าง รถตู้เลยพาไปน้ำตกแม่สา ซึ่งอยู่ถัดจากคุ้มเสือไปไม่ไกล (ระหว่างทางผ่านป้ายร้านกาแฟวาวี ซึ่งเค้าว่าสาขาที่สวยที่สุดของกาแฟวาวีเลยนะ เสียดายจังที่ไม่ได้แวะ)
น้ำตกแม่สามีทั้งหมด 10 ชั้น รถขึ้นไปได้ถึงชั้น 3 จากนั้นต้องเดินขึ้นไปเอง มีน้าจ้อยนี่ล่ะ ต้องเดินขึ้นไปกับน้องก๊าบ คนอื่นขอนั่งรอกันหมด น้องมิบอกว่าหนูไม่ชอบอยู่แล้ว พวกเที่ยวป่าเที่ยวน้ำตก (เธอชอบเที่ยวห้างสรรพสินค้า เที่ยวเมืองนอก)
เดินไปกลับขึ้นลงเขา 2 กิโลกว่า เหนื่อยหอบเหมือนกัน รีบซื้อน้ำกิน
กลับเข้าเมือง พี่เจื้อยขอแวะนั่งพักกินกาแฟที่ร้านกาแฟวาวี สาขานิมมานเหมินทร์ สั่งกาแฟกินกับ Coconut Pie หรือ Tart อะไรนี่ละ อร่อยอีกแล้ว
ของอร่อย |
เย็นนี้กินอาหารอิตาเลียน คุณครรชิตแนะนำว่าร้านนี้อร่อย ชื่อ "Giorgio" เจ้าของร้านเป็น Italian ภรรยาไทย เราไปถึง 6 โมงสี่สิบ มีคนกินอยู่แล้ว 2-3 โต๊ะ นั่งแป๊บเดียวคนเต็มร้าน คนต่างชาติมากินเยอะเลย บรรยากาศเหมือนกินอยู่เมืองนอกทีเดียว แต่ในร้านไฟสลัวมาก ถ่ายรูปได้ไม่ชัด
กินเสร็จ ไปเดินถนนคนเดินที่วัวลายต่อ
เดินประมาณชั่วโมงนึง แล้วนั่งรถกลับโรงแรม ถึง 3 ทุ่มนิดๆ ภรรยาคุณครรชิตโทรมาบอกว่า Germany ยิงประตูเข้าไปได้แล้ว 1 ลูก
(อ่านตอนต่อไปได้ที่ เชียงใหม่ไดอารี่ ปี 53 (4))
No comments:
Post a Comment