Thursday, August 14, 2014

วันหนึ่งใน Sfakia, Crete Island

Another Story by Joe
Photos by Joy, Pui, P-Ob


เส้นทางลดเลี้ยวเคี้ยวคดบนไหล่เขาสูงชันดูไกลๆ คล้ายพญานาคพันเขาพระสุเมรุ นำพวกเราไปสู่เมืองเล็กริมทะเลอีกฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Crete* ประเทศกรีซ  ระหว่างทางเป็นภูเขาที่มองเห็นเป็นสีขาวโพลน มีเพียงพื้นที่บริเวณเล็กๆบางแห่งเท่านั้นที่มีไม้พุ่มขึ้นอยู่กระจัดกระจายอย่างไร้ระเบียบพอให้เห็นว่านี่ไม่ใช่ทะเลทราย 

 

อากาศเย็นบนไหล่เขากับวิวสวยชักนำเราให้จอดรถพักถ่ายรูปกันเป็นระยะๆ อย่างเพลินใจ…
 
 
และในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายปลายทางของวันนี้ Sfakia… เมืองเล็กๆ เหนือริมหาดที่เต็มไปด้วยโขดหินและหน้าผาสูงชัน  ที่นี่ไม่มีหาดทรายขาว  ปราศจากความวุ่นวายเอะอะเหมือนเช่นชายหาดทั่วไป  บ้านและร้านค้ามีอยู่เพียงไม่กี่แห่งกระจายตัวอยู่กันแบบห่างๆ   แสงแดดจ้าผนวกกับฝ้าขาวดูคล้ายหมอกทำให้ภาพท้องทะเลที่เห็นอยู่เบื้องหน้าดูไม่น่าประทับใจสักเท่าไร  
 
 
เราสิ้นสุดการเดินทางในช่วงเช้าวันนี้พอดีกับเวลาอาหารกลางวันท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุมากขึ้นๆทุกที  
 
อาหารแบบไทยๆในยามยากถูกตระเตรียมมาอย่างตั้งอกตั้งใจตั้งแต่เช้าตรู่...มาม่าผัดแห้งหนักด้วยเส้นและผักแบบไม่ใส่ใจเรื่องหมูเนื้อ....ถึงแม้จะเป็นมื้อกลางวันที่แสนจะเรียบง่าย(จนเกินไป) แต่ถูกปากถูกลิ้นถูกใจพวกเราอย่างมากเมื่อเทียบกับขนมพื้นเมืองตามคำบอกกล่าวที่ได้ยินมา... Sfakian pie with local honey…แผ่นแป้งสีขาวสอดไส้ชีสรสชาติแปลก ปิ้งใหม่ก่อนเสริฟแต่สีสันภายนอกดูคล้ายเผามากกว่า(แบบไหม้นอกในดิบหรืออะไรทำนองนั้น) กินพร้อมกับกาแฟเย็นรสชาติแบบปิดตา พร้อมจิบแล้วไม่สามารถบอกได้ว่านั่นมันคือกาแฟเย็นที่เคยรู้จัก

 
นั่งพักไม่นานนักก็มุ่งหน้าเดินทางต่อ....


*หมายเหตุ เกาะ Crete เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศกรีซ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เกาะ Crete เป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมโบราณ Minoan ซึ่งรุ่งเรืองอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 27- ศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสตกาล มีพระราชวังโบราณ Knossos (เราเรียกง่ายๆว่า คนอร์ ซ้อส!) เป็นจุดศูนย์กลาง มีการสันนิษฐานว่าอาณาจักรแห่งนี้ล่มสลายจากการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่และคลื่นยักษ์ที่อาจเป็นเหตุการณ์เดียวกับที่ตำนานเรื่อง Atlantis ได้กล่าวไว้ แหล่งโบราณคดีนี้ถูกขุดค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษชื่อ Sir Arthur Evans ในศตวรรษที่ 20 (โปรดติดตามเรื่องและภาพเพิ่มเติมใน Joy on the Blog ในโอกาสต่อไปค่ะ ^_^)

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/7/77/CreteMap.jpg



http://en.wikipedia.org/wiki/Sfakia#mediaviewer/File:Greece_location_map.svg

 
 
About the Writer:
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์
การศึกษาและงานปัจจุบัน
Medical School: Mahidol University Medical School
Postgraduate qualifications:
  • Board of Dermatology
  • Board of Familial medicine
  • Subspecialty in Laser and cosmetology
  • Current position: Teaching in Laser and Dermatology at Ramathibodi hospital, Mahidol university
Special Interests: Laser surgery, General dermatology (including cosmetic)
Interests: Chinese history. 

Friday, August 8, 2014

บ่ายหนึ่งในเอเธนส์..

บ่ายหนึ่งในเอเธนส์..

Story by Joe
Photos by Joy & Pui
(หมายเหตุ ขออนุญาตผู้เขียนนำเรื่องครั้งที่พวกเราไปเที่ยวกรีซเมื่อหลายปีมาแล้ว มาลงใน Blog นี้นะจ๊ะ ^_^)

          อารยธรรมกรีกโบราณ ความเจริญรุ่งเรื่องเก่าแก่เกินจินตนาการ ชักนำให้เราหกชีวิตข้ามน้ำข้ามทะเลมาดูให้เห็นกับตา...

วิหาร Erecthion, Acropolis

The Porch of the Caryatids มีรูปแกะสลักหญิงสาว 6 คน
ที่ถูกลงโทษให้กลายเป็นเสาหินค้ำยันวิหาร ตามเทพนิยายกรีก 

               .....ข้อมูลประวัติศาสตร์แน่นตึ้บได้ถูกตระเตรียมไว้อย่างเพียบพร้อมพอๆกับสัมภาระเสบียงอาหารไทยกองโตที่ถูกบรรจงยัดลงกระเป๋าใบเขื่องจนน้ำหนักเกินพิกัด   สองสิ่งนี้ก็มากพอแล้วที่จะประกาศให้ได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของการเดินทางสู่กรีซในครั้งนี้.... วันพักผ่อนแสนสั้นบนประวัติศาสตร์ที่ยาวนานได้เริ่มต้นขึ้นที่เอเธนส์เมืองที่ฉันเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็ก...ที่นี่มีวิหารพาธีนอนที่ยิ่งใหญ่ตระการตา(แบบหักๆไม่สมบูรณ์นัก) ตั้งตระหง่านบนเนินสูงกลางใจเมือง  เมื่อได้ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดข้างบนนั้นร่างอวบอ้วนแน่นปั๊งบนขาคู่โตของฉันก็ได้ถูกท้าทายด้วยกระแสลมแรงจนตัวปลิว  เม็ดทรายนับพันๆเม็ดฟุ้งกระจายไปด้วยความแรงลม  ทำเอาผู้สูงวัยแสบหูแสบตากันไปตามๆกัน  แต่ความแรงของลมนั้นหรือจะหานสู้ความแรงของผองเรา  ท้ายสุดเราก็ได้บันทึกภาพสวยในมุมต่างๆบนนั้นจนหน่ำใจ.....

Greek Parthenon

 

ลงจากเนินสูงก็มุ่งหน้าลัดเลาะผ่านตรอกซอยเล็กๆ รอบเนินอะโครโพริสที่มีวิหารพาธีนอนตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนั้น  พยายามทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้แต่ทุกคนก็ไม่ได้เสียเงินให้กับอะไรสักชิ้น 
 
 
 


เดินไปได้สักพักจะเป็นด้วยอาการเหนื่อยล้าผนวกกับความหิวโหยหรือจะเป็นด้วยอาการหน้ามืดก็ไม่อาจสรุปได้  เราเดินไปสิ้นสุดหยุดลงตรงร้านอาหารหรูสไตล์กรีกข้างถนนแห่งหนึ่งที่มีลูกค้านั่งอยู่แบบนับคนได้   ในขณะที่พวกเรากำลังมองซ้ายขวาหาร้านที่เหมาะใจ  บริกรยิ้มยากคนหนึ่งออกมาเรียกพวกเราให้เข้าไปลิ้มลองรสอาหารอย่างเอาจริงเอาจัง..บอกพวกเราว่าร้านไหนก็เหมือนกัน.....ไอ้ที่ว่าเหมือนกันนั้นนะรสชาติแย่เหมือนกันทุกร้านนั่นเอง  กว่าจะรู้ก็หลังจากนั่งรอเป็นชั่วโมงกว่าจะได้ลิ้มรสชาติของอาหารที่เราสั่งมาทานกัน...ทุกรายการมันช่างต่างจากที่คาดไว้ราวสวรรค์กับนรกจริงๆ
 

หลังจากหอบหิ้วความผิดหวังในรสชาติอาหารมื้อแรกในกรีซเดินมาได้สักพักก็ได้พบเห็นความยิ่งใหญ่ที่คาดไม่ถึง (ว่ามันยิ่งใหญ่จริงเปล่าวะ) ความน่าสนใจที่เกือบเดินผ่านถ้าไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดีสุดสุด  Temple of Zeus
Temple of Zeus
ที่นี่สอนให้ฉันได้รู้ว่าทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นอนิจจัง  ความยิ่งใหญ่สวยงามของสถานที่แห่งนี้หลงเหลือให้เห็นเพียงเสาสูงเพียงไม่กี่ต้นกลางลานกว้างเสมือนใครจับตั้งเตรียมไว้ให้เราไปดู ส่วนเสาอื่นๆหดหายกลายเป็นปุ่มเล็กๆโผล่พ้นดินให้เห็นเพียงไม่กี่เซนติเมตร ยืนงงกันสักพัก ก็หามุมที่คิดว่ามองเห็นอะไรๆได้มากที่สุดเพื่อถ่ายรูปให้ออกมาดูยิ่งใหญ่แล้วก็เดินจากไป....
 


 โยเกิร์ตรสเปรี้ยวจี๊ดที่ร้านแมคโดนัลกลางย่านช้อปปิ้งช่วยทำให้ฉันลืมฝันร้ายที่ร้านอาหารกรีกข้างถนนร้านนั้นไปได้พอควร...  
 
 

นั่งกินไปมองดูเหล่าคนดำหอบสินค้าเลียนแบบเข้าๆออกๆ เดินไปมาเหมือนกำลังเล่นซ่อนหากับเทศกิจที่นั่นอย่างเมามันส์ก็ช่วยทำให้อารมณ์พวกเราดีขึ้นได้บ้าง  มีเรี่ยวแรงเดินต่อไป....ต่อไปเรื่อยๆแบบไม่เร่งรีบ..
 
 
ผ่านย่านร้านสินค้าและเสื้อผ้ายี่ห้อดังหลากหลายแต่ส่วนใหญ่ก็แค่เดินผ่านจริงๆ  ชายน้อยประจำกลุ่มได้เสื้อมาหนึ่งตัวหลังจากตัดสินใจครั้งใหญ่อีกครั้งในชีวิต  เดินต่อไปก็ถึงย่านที่ดูคล้ายพาหุรัดบ้านเรา  ร้านริมถนนเต็มไปด้วยเสื้อผ้าโหลที่ตัดเย็บไว้เป็นกองโตแบบไม่ใส่ใจเรื่องคุณภาพเท่าไรนัก มีคนจีนสองสามคนขับรถส่งของดูแปลกตาดี
 

เดินวกไปมาขึ้นเนินที่สูงขึ้นเรื่อยๆอีกหลายเลี้ยวกว่าจะถึงสถานีรถรางที่จะพาเราขึ้นไปจิบกาแฟอย่างที่ตั้งใจไว้  แต่ก่อนจะถึงสถานีที่เจอโดยเกือบบังเอิญนี้ก็เล่นเอาบางคนเกือบถอดใจ  กาแฟรสเลิศผสมผสานการพูดคุยแบบสบายๆกับคนที่รู้ใจ....ท่ามกลางวิวสวยบนยอดเนินเขาสูงที่มองเห็นอยู่ไม่ไกลจากวิหารพาธีนอนเท่าไรนักช่วยให้ความเมื่อยล้าจางหายไปอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัว 

Panorama View from Top of the Fox Hill
อุ้ย เพิ่งเห็นเท้าป้าเจื้อยโผล่มา ^^
 ....ถึงตอนนี้ฉันได้ตระหนักแล้วว่าสิ่งดีๆอย่างนี้คงไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในชีวิตของฉัน...


About the Writer (โปรโมทเพื่อนสุดฤทธิ์ อิอิ):

นายแพทย์สมนึก กล่ำทวี   แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์
  Director of the Smooth D skincare laser Clinic, Soi Rajakru
 
  Education:
  Medical School: Mahidol University Medical School
  Postgraduate qualifications:
  •   Board of Dermatology
  •   Board of Familial medicine
  •   Subspecialty in Laser and cosmetology
  Current position: Teaching in Laser and Dermatology at Ramathibodi hospital, Mahidol university
Special Interests: Laser surgery, General dermatology (including cosmetic) 

Tuesday, August 5, 2014

เอิ๊กอ๊ากพาเที่ยวญี่ปุ่น Day 2: โตเกียว Shinjuku

วันที่สอง

เช้าวันนี้น้าจ้อยพาผมไปซื้ออาหารเช้าใน Family Mart มากินในโรงแรม

โอเด้ง ของโปรดพี่อิ๊บ ตักไม่ยั้ง กินทุกเช้า 

โรงแรมที่เราพักชื่อ Hotel Century Southern Tower อยู่ที่ Shinjuku
น้าจ้อยพาคุณยายขึ้น Airport Shuttle Bus จากสนามบินนาริตะ รถมาส่งถึงหน้าโรงแรมเลย มีคนยกกระเป๋าขึ้นลงให้เสร็จ สะดวกสบายมาก

จากชั้น Lobby มองเห็น JR Shinjuku Station

โรงแรม Sunroute Plaza ที่พักนึงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว
ในพันทิบอยู่ห่างแค่ข้ามถนน (ตึกสีเหลืองน้ำตาล)

และถ้าไม่ต้องจูงคุณยาย หรือไม่มีกระเป๋าทั้งใบใหญ่ใบเล็กอันหนักอึ้งใส่ของฝากครอบครัวอ๊อกซัง น้าจ้อยบอกว่าสามารถมาที่โรงแรมนี้ด้วยรถไฟ NEX ได้อย่างสะดวก เพราะสถานีรถไฟ JR Shinjuku Station อยู่ข้างโรงแรมเลยครับ
Shinjuku Station เป็นสถานีที่วุ่นวายดีแท้
จากชั้นล่างของโรงแรมต้องกดลิฟท์ขึ้นมาที่ Lobby ของ โรงแรม ชั้น 20 ก่อน

ถึงแม้โรงแรมที่เราพักอยู่ติดสถานีรถไฟ แต่ในห้องไม่ได้ยินเสียงรถไฟครับ โดยส่วนที่เป็นโรงแรมจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 20 ขึ้นไป ชั้นต่ำลงไปจากนั้นเป็น Office Building ชั้นล่างของตึกมีร้านอาหารหลายร้าน แต่เราไม่ได้ลองกินซักร้านนึง

ในห้องพักมี Free Wifi ให้ใช้ด้วย (ของสำคัญ!)

ด้านข้างโรงแรมมีร้านกาแฟ Starbucks ร้านโดนัท Krispy Kreme ร้านขนมปังเยอรมันหน้าตาน่ากิน

ร้านหนมปังชื่อเยอรมัน
Krispy Kreme ร้านเบ้อเริ่ม


น้าจ้อยเล่าว่าเมื่อเช้าวานก็มาซื้อซาละเปาที่ Family Mart อร่อยมาก กับกาแฟ Drip ยี่ห้อ Family Mart อีกเช่นกัน และซื้อน้ำดื่มไปชงกาแฟกินในโรงแรม วันนี้แม่ผมกินกาแฟของน้าจ้อย แม่ก็บอกว่าอร่อยมาก เช้านี้คุณยายอยากกินซาละเปา Family Mart อีกละ วันนี้ซื้อนมสดและ Yogurt ด้วย
Yogurt ที่ญี่ปุ่นนี่อร่อยจังครับ เข้มข้น และไม่หวานจัด และ Hot Coco ชนิดซองของ Van Heuten ก็อร่อยเลย พี่อิ๊บชงกินไปหลายซอง

รวมอาหารแสนอร่อย จาก Family Mart
แม่ซื้อข้าวสามเหลี่ยมห่อสาหร่ายใส้ไข่กุ้งเป็นอาหารเช้าของแม่ พี่อิ๊บ และผม อร่อยมากอีกเหมือนกัน ผมกินไปสองก้อน ฮี่ ฮี่
เรากินอาหารเช้ากันในห้องน้าจ้อย กินไปชมวิวจากหน้าต่างชั้น 30 ไปด้วย ฝั่งที่น้าจ้อยพักหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งถ้าอากาศดีจะเห็นได้ไกลถึง Mount Fuji เลยล่ะครับ!

ใกล้ๆก็มีสวนสาธารณะ ตรงกลางๆสวนล้อมรอบด้วยต้นไม้ใบเขียวๆ คือ Meiji Shrine

วันนี้ฝนตกแบบ Drizzle (เรียกอย่างนี้ใช่มะครับ) หยิมๆทั้งวัน ..พรุ่งนี้ฮินาตะจัง มีแข่งกีฬาที่โรงเรียนอนุบาลด้วย หวังว่าฝนจะไม่ตกแบบวันนี้
แต่เด็กญี่ปุ่นนี่คงไม่เป็นหวัดกันง่ายๆครับ เพราะเมื่อวานน้องเรียวคุงตัวจิ๋วโดนฝนที่ Tokyo Disneyland พี่จี้จังก็ดูเฉยๆ ไม่ใส่หมวกให้น้อง

Takashimaya Department Store - Tokyu Hands

เพียงแค่ไม่กี่เมตรจากโรงแรม ก็ถึง Takashimaya
แม่กับน้าจ้อยเดินกางร่มไปซื้อเครื่องเขียนที่ Tokyu Hands กับซื้อ Capsule กาแฟ Nespresso ที่ Takashimaya ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมเป๊ะ เดินแค่ในห้างนี้แป๊บๆหมดเวลาไป 2 ชั่วโมงแล้ว
วิวห้าง Tokyu Hands จากห้องน้ำที่ชั้น Lobby ของโรงแรม
Tokyu Hands สาขานี้มีทั้งหมด 8 ชั้น
และที่ชั้น B1 ของ Takashimaya มีทั้ง Food Hall และร้านหนังสือ Kinokuniya
ส่วนที่ชั้น 12-14 เป็น Restaurants Park มีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกกิน (แต่ราคาค่อนข้างสูงอยู๋)
เมื่อคืนที่มาถึงวันแรก น้าจ้อยพาคุณยายออกไปกินโซบะร้อนกับกุ้งเทมปุระเป็นอาหารเย็นที่ร้านอาหารในนี้ แต่คุณยายบอก Hachiban Ramen อร่อยกว่า -_-"
ส่วนน้าจ้อยกินสุกี้รวมมิตรหม้อดิน มีตอกไข่ใส่เป็นไข่ลวก บอกว่าอร่อยดี

ภาพสินค้าตัวอย่าง VS สินค้าจริง!
ตอนบ่ายน้าจ้อยพาผม พี่อิ๊บ คุณยายเดินเอาของมาเก็บที่โรงแรม ให้คุณยายมานอนพัก พวกเรากิน Hot Coco กะ Chocolate Biscuit ที่อ๊อกซังให้มารองท้องระหว่างรอแม่ผมที่ยังขอช้อปต่อ แม่บอกพวกเราว่าจะเดินกลับมาเจอกันที่โรงแรม แล้วถึงจะออกไปหาอะไรกินด้วยกัน

นี่พวกเราก็รอนานแล้วนะ ไม่มาซักที หิววววว

สรุปว่าวันนี้ผมไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย !!
พอแม่กลับมาถึง แม่เลยต้องชดเชยด้วยการพาผมไปกินซูชิ ซาชิมิ ว่ะ ฮ่า ฮ่า ...

เอิ๊กอ๊ากเที่ยวญี่ปุ่น:
เอิ๊กอ๊ากพาเที่ยวญี่ปุ่น : Day 1 โตเกียว Tokyo Disneyland
เอิ๊กอ๊ากพาเที่ยวญี่ปุ่น : Day 3 โตเกียว Asakusa - Shibuya - Daikanyama
เอิ๊กอ๊ากพาเที่ยวญี่ปุ่น : Day 4 Gotenba - Kawaguchiko

เอิ๊กอ๊ากเที่ยวไทย:
เอิ๊กอ๊ากพาแอ่วเชียงใหม่ ..ปีใหม่ 55
เอิ๊กอ๊ากพาเที่ยวสวนน้าแพนด้า