Monday, November 4, 2013

อร่อยซอยสุขุมวิท 31: Sweet Pista Bangkok ...อร่อย ไม่จำกัดเมนู!

ถ้าถามว่าร้านอาหารสุดโปรดของครอบครัวตอนนี้คือร้านอะไร ทุกเสียงในบ้านต้องตอบตรงกันเป๊ะว่า “Sweet Pista”! เพราะว่าจะต้องมีเสียงเรียกร้องทุกอาทิตย์ว่าเย็นนี้อยากไปกิน Sweet Pista ให้โทรจองโต๊ะด่วน นี่ขนาด Sweet Pista เพิ่งขยับขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่าแล้ว ลูกค้ายังมากันเต็มตลอด ถ้าไม่อยากไปแล้วผิดหวังเพราะอดกิน ต้องโทร.จองก่อนเท่านั้น

เจ้าของร้านผู้รักจักรยานเล่าว่า Pista เป็นภาษาอิตาเลียน หมายถึงจักรยาน
ร้าน Sweet Pista เป็นร้านอาหารเล็กๆ อยู่ท้ายๆซอยสุขุมวิท 31 ทางที่จะทะลุไปออกถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ภายในร้านตกแต่งผนังปูนเปลือยด้วยจักรยานที่เป็นของสะสมของเจ้าของร้าน เมนูอาหารไม่มากมาย แต่ว่าอร่อยทุกจาน!! และตั้งราคาแบบไปกินได้บ่อยๆ ไม่ต้องคิดมากก่อนกิน (แค่คิดก็อยากกินซะแระ วู้วู้วู้) 
เจ้าของร้านฝ่ายชายซึ่งเป็นคนทำอาหารเองทุกจาน บอกว่าทำแค่นี้พอ อยู่ได้แล้ว ถ้าร้านใหญ่กว่านี้จะดูแลได้ไม่ทั่วถึง จะทำไม่สนุก (แค่นี้ก็ทำไม่ได้หยุดมือแล้ว)

Sweet Pista Salad, one of the signature dishes

ซี่โครงหมูเลียมือ และ Parma Ham Salad

Hamburg with Mashed Potato แสนอร่อย
 
จานนี้ก็อร่อยสุดๆ กุ้งสดๆกับไข่กุ้งกรุบๆ

ข้าวหมา และ Anchovy Fries สุดอร่อย
 
US Prime Rib Steak เมนูใหม่
  
 เจ้าของร้านฝ่ายหญิงเป็นฝ่าย Bakery ทำเค้กอร่อยๆใหม่สดทุกวัน แต่ละครั้งที่ไป จะได้กินเค้กแตกต่างกันไป เค้กหลักๆที่ได้กินบ่อยๆ เช่น Lemon Cheesecake เค้กส้ม เค้กมะพร้าว เค้กชาเขียวถั่วแดง บางครั้งมี Banoffi และนานๆครั้งจะได้กิน Apple Crumble (อยากกินอีกง่ะ) กินคู่กับกาแฟ หรือ Fresh Tea กลิ่นผลไม้หอมๆ ยี่ห้อ Lupicia จากญี่ปุ่น 
Banoffi, Apple Crumble, Orange Fresh Cream Cake
     
Mango Cheesecake
 
Hot Latte

ส่วนพี่สาวผู้มีฝีมือด้านการอบขนมปัง ก็อบขนมปังสำหรับ Hamburger ของร้านใหม่ๆจากเตาทุกวัน ซึ่งกว่าจะได้สูตรลงตัว เชฟโด่งบอกว่าต้องปรับสูตรกันอยู่หลายรอบ

ขนมปังเบอร์เกอร์ร้อนๆจากเตา

ขนมปังที่ประกอบร่างเป็น Bacon Cheeseburger เรียบร้อยแล้ว
 
How to get there: จากปากซอยสุขุมวิท 31 ตรงเข้ามาจนเจอสี่แยกบ้านคุณอภิสิทธิ์ เลี้ยวซ้าย โค้งไปตามทาง ผ่านร้านเค้ก Mousse&Merringe ทางด้านขวา ตรงไปเรื่อยๆ ผ่าน Hotel Eugenia และ Le Vendome จนสุดทางจะมีทางเข้าไปยังลานจอดรถ

ปากทางเข้าเป็นร้านจักรยานSixty Fixty กินเสร็จสามารถเดินย่อยอาหาร ไปดูจักรยานสวยๆได้ มีตั้งแต่ราคาหลักพันจนถึงหลักแสนบาท เจ้าของร้านจักรยานใจดี ให้ทดลองขี่จักรยานได้ด้วย

Sweet Pista Bangkok สุขุมวิท 31 โทร. 02-662-2866
ร้านปิดวันจันทร์
มีลานจอดรถหน้าร้าน

Tuesday, October 15, 2013

ขนมปัง-กาแฟ ร้านเพลินชัย สี่พระยา ..ขนมปังอบใหม่กรอบนอกนุ่มใน


ยามเช้าวันเสาร์รถไม่ติด บางทีก็นึกอยากกินขนมปังเนยน้ำตาลอบกรอบนอกนุ่มใน ถนนสี่พระยา

จากสี่แยกสามย่าน ผ่านวัดหัวลำโพงทางด้านซ้าย ขับตรงขึ้นมาผ่านสามแยกแรก ก่อนถึงธนาคารกรุงเทพ จะมีร้านห้องแถวเก่าแก่สองคูหา ขายขนมปังเนยน้ำตาล หรือจะราดนมข้นเพิ่มอีกก็ยังได้ ขายกับชากาแฟโบราณ พร้อมนมสดต้มมีไขนมลอยหน้า


หากไปสายหน่อยจะมีก๋วยเตี๋ยวแคะต้มยำรสชาติจัดจ้านร่วมให้บริการด้วย
อร่อย!!!

ร้านปิดวันอาทิตย์
ไม่มีที่จอดรถ (แต่ถัดร้านไปเล็กน้อย มีธนาคารกรุงเทพ ถ้าจังหวะดีๆไม่มีรถจอด สามารถเสียบเข้าจอดแป๊บนึงพอได้ - ตามภาพแรกด้านบน ^_^)

Friday, September 27, 2013

Summer in Hokkaido (5/5) : Shopping ส่งท้าย ใน Sapporo

บันทึกการเดินทางเสาะหาวิวสวยๆ และอาหารอร่อย ในฤดูร้อนของเกาะฮอกไกโด
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4

คืนวันที่ 8 สิงหา 56
ถึงยายแพนด้า
ชั้นเพิ่งกลับจากไปออนเซน อันเป็น Complimentary ที่โรงแรมให้ Voucher มา ^_^
คืนนี้เรามาค้างที่ Air Terminal Hotel อยู่ในสนามบิน Chin Chitose เลย
พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก

Flight ออก 10.45น.
ถึงกรุงเทพ 15.45 น.

บ่ายนี้เราก็เที่ยวเล่นซื้อของกินของฝากกันอยู่ใน Airport นี่ละจ้ะ

ถ้าจะซื้อของต้องฝั่ง Domestic Terminal นะ สวรรค์ของคนชอบขนม เป็นแหล่งรวมขนมทั้งหมดของ Hokkaido ทั้ง Potato Farm, Giant Pockey Melon, Royce Chocolate, Le Tao Cheese Cake แห่งโอตารุ, แห่ง Hakodate และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งอาหารจากท้องทะเลแช่แข็งอย่างขาปูยักษ์ และของสดๆอย่างไข่หอยเม่น (อูนิ) ไข่ปลาซาลมอน ปลาตากแห้ง จาระนัยไม่ครบ
ที่ชั้นชอบมากคือมีมันฝรั่ง Jakgabi by Calbi ทอดสดๆใหม่กันตรงนั้นเลย อร่อยจริงอะไรจริง

หมายเหตุ : ที่หน้า Gate รอขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่ผ่าน Immigration เข้ามาเรียบร้อยแล้ว จะมีด่านสุดท้ายให้ใช้เงิน ทางซ้ายมีร้านขาย Potato Farm, Royce Chocolate, Giant Pockey, KitKat ชาเขียว, KitKat Strawberry ของที่ระลึกกระจุกกระจิก ปลาหมึกอบเปียกๆแห้งๆก็มี ซื้อที่นี่ไม่ต้องเสีย Vat 5% ด้วย

เราแวะไป Doraemon Museum ซึ่งก็อยู่ใน Airport นี่ด้วย เรียกว่าไปแย่งเด็กถ่ายรูปแท้ๆ ฮ่าฮ่า
 

เด็กๆโผล่ขึ้นมาได้ทั้งตัว แต่ป้าโผล่ได้แค่ครึ่งหัว!

ลุงป้าแย่งเด็กถ่ายรูปทุกมุม
ละแวกนั้นมีทั้งร้าน Hello Kitty ร้าน Royce Chocolate World (รู้งี้ไม่ต้องไปถึง Chiroikoibito Chocolate Factory หรอก ที่นี่ก็มีกำแพงกระจกให้มองเห็นเจ้าหน้าที่กะลังทำ Chocolate เหมือนกัน)
 


ยังพอมีเวลาเหลือ เลยนั่ง Free Shuttle Bus (ถ้าไม่ฟรีคงไม่ไป) ไปดูข้าวของที่ Factory Outlet ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ชื่อ Chitose Outlet Mall Rera
ขึ้น Free Shuttle Bus ได้แถว JAL Counter ฝั่ง Domestic Terminal

ชั้นได้เสื้อยืด Gap ตัวละร้อยกว่าบาทมาตัวนึง
มัวแต่ใช้เวลาส่วนใหญ่เลือกซื้อขนมอยู่ที่ Family Mart น่ะ ดูแล้วขนมที่นี่เยอะดีจัง น่าซื้อไปหมด :) มีมุมเล็กๆขายของ Muji ด้วย
Brands ส่วนใหญ่ใน Outlet นี้เป็น Local Brands ที่เราก็ไม่รู้จัก ยายปุ๊ยกะน้องเดินดูแป๊บเดียวก็เผ่นขึ้น Shuttle กลับหนามบินก่อนใคร

ค่ำนี้มื้อส่งท้าย เรากิน Shoyu Ramen สูตรน้ำซุปกุ้งของร้าน EbiRamen น้ำซุปร้อนๆ หอมๆ เค็มๆ ถูกใจที่ซู้ด (ยายปุ๊ยว่าเค็มเกิน)โดยเฉพาะกุ้งสับฝอยๆทำให้กรอบๆที่โรยหน้ามา อร่อยมว้ากกก

ส่วนแหล่ง Shopping ในเมือง จาก Guidebook (ซึ่งเราไม่ได้ไปเลย) เค้าแนะนำแถว Susukino, Odori ไรพวกนี้
เราไม่คิดจะซื้อ Brandnames ราคาแพง ก็เลยวนๆเวียนๆอยู่แถว JR Sapporo Station นั่นเอง
ที่ตึก JR Station มีห้าง Daimaru ซึ่งชั้นใต้ดินเป็นแหล่งรวมขนมอันตื่นตาตื่นใจ ขนมเค้กดังอย่าง Le Tao แห่งเมือง Otaru ก็มี Counter ขายใหญ่ยักษ์อยู่ที่นี่
ส่วนอีกห้างใน JR Station ชื่อ Esta มีร้าน Uniqlo ร้าน Loft ส่วนชั้นใต้ดินก็มีของกินขายแยะ มีร้านขายชา Lupicia Fresh Tea ของเอ้ด้วย

ตามไปชิมชานี้ได้ที่ร้าน Sweet Pista สุขุมวิท 31 จ้ะ
ว่าแต่ถ้าสนใจจะซื้อกระเป๋า Bao Bao ละก็ Reception ของห้าง Daimaru แนะนำให้ไปดูที่ห้าง Parco สถานี Odori จ้ะ
เราเดินดูของที่ร้านขายยาที่ขายของใช้ผู้หญิงก็สนุกแล้ว ยายปุ๊ยโกยครีมเปลี่ยนสีผมทุกยี่ห้อบนชั้นเลยล่ะ ชั้นเลยว่าจะคอยปุ๊ยให้ Feedback มาอีกทีว่ายี่ห้อไหนเจ๋สุด ค่อยกลับมาซื้อเมื่อมีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกที อิอิ (ไม่ต้องฝากชั้นซื้อล่ะ)

เดินเลยไปเกือบจะออกจากตึก JR Station มีร้านขายยาอีกร้าน ที่นี่ขายขนม Jakgabi ราคาถูกที่สุดเท่าที่เห็นในเมืองแล้ว ซื้อลูกอมกุหลาบให้น้องมิได้ที่นี่ด้วย Cashier ก็พูดเก่งชนิดพูดไม่หยุดกันเลย ทำเสียงสูงเสียงต่ำตลอดเวลา ถ้าฟังนานๆคงปวดหัว

วันที่ 9 สิงหา 56 ก่อน Check-in
แพนฯ
ส่งข่าวหาเธอเร็วๆ ก่อนจะจบการเดินทางเที่ยว Hokkaido เพียงเท่านี้ เนื่องจากยายปุ๊ยเตรียมตัวเก็บ Pocket Wifi ใส่ห่อ รอหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ส่งคืนผู้ให้บริการแล้วจ้ะ
บ๊ายบาย Pocket wifi
อ้อ! จะบอกข่าวร้ายนะจ๊ะแพนด้า ว่าไม่สามารถหาซื้อ Melon Chocolate แสนอร่อยที่เธอสั่งแล้วสั่งอีกมาฝากเธอได้จ้ะ หากันทั้งเกาะแล้วก็มิมี อิอิอิ

แต่เพื่อเป็นการปลอบใจ ชั้น ปุ๊ย และยายก้อย หุ้นกันซื้อตุ๊กตา Line ให้เธอแล้ว 1 ตัว จากร้านขายของใกล้ๆ Counter Check-in ของการบินไทย เจ้าตุ๊กตา Line แบบตัวจิ๋วๆราคาร้อยกว่าบาทก็ถูกยายก้อยเหมาจนเรียบไปแล้ว เหลือแต่ราคาแพง(เกือบสามร้อยบาทเชียวนะเฟร้ย) ที่ซื้อให้เธอเนี่ยแหล่ะ และทั้งสนามบินก็มีร้านนี้เท่านั้นที่ขาย Product Cony และ Brown ของ Line

ส่วนไข่หอยเม่นสดๆที่ยายกบฝากซื้อ ต้องซื้อร้านฝั่ง Domestic คนขายเป็นงานมาก แพ้คใส่กล่องโฟมอย่างดี ติดหูหิ้วให้เรียบร้อย ยายก้อยช่วย Load เข้าใต้ท้องเครื่องบินไปแระ
อูนิสีเหลืองอร่าม บรรจุกล่องครอบด้วยไม้ไผ่
ฝั่ง International Terminal มีร้านขายอาหารทะเลอยู่ร้านนึง แต่อาหารทะเลแบบแช่แข็ง เช่น ขาปูยักษ์ และของน้อยด้วย

เจอกันที่กรุงเทพจ้าแพนด้า!
ของที่ซื้อมาประมาณเน้


โปรดติดตามบันทึกการเดินทางไปโตเกียว เดือนตุลาคมนี้จ้า ... ^_^


Thursday, September 26, 2013

Summer in Hokkaido (4/5): Sapporo City Tour

บันทึกการเดินทางเสาะหาวิวสวยๆและอาหารอร่อย ในฤดูร้อนของเกาะฮอกไกโด
ความเดิม :
ตอนที่ 1
Summer in Hokkaido (1/5): Noboribetsu Onsen – Lake Toya – Mt.Usu/Mt.Showa-Shinzan
ตอนที่ 2
Summer in Hokkaido (2/5): Day Trip to Otaru
ตอนที่ 3
Summer in Hokkaido (3/5): Beautiful Flowers at Furano – Biei


คืนวันที่ 6 สิงหา 56
ยายแพนด้า
เรากลับมาอยู่ที่ Sapporo กันแล้วจ้ะ
เอารถไปคืนที่สาขาของ Toyota Car Rental ใกล้กับสถานี JR Sapporo เรียบร้อย

คืนนี้เรานัดยายก้อยและ Family ไปชิมปูชนิดต่างๆของฮอกไกโดกัน
ที่โรงแรมแนะนำร้านชื่อ Kani Honke ซึ่งมีสาขาตรง JR Sapporo Station และที่ Susukino
ร้านเดียวกับที่พวกเราเปิดเจอจากในหนังสือนำเที่ยวที่ซื้อมา

ร้านที่สถานี JR เต็ม ต้องไปกินร้านที่ Susukino แทน
ปุ๊ยส่งภาษากับ Taxi คนขับก็ทำท่ารู้เรื่องดี พาเราไปถึง Susukino ก็ชี้ๆว่าร้านนี้แหล่ะ
ที่ไหนได้ กลายเป็นพาเรามาส่งหน้าสถานีตำรวจ คงกะให้เราถามตำรวจต่อ
ถามคนแถวนั้นก็ชี้บอกกันไปคนละทิศละทาง
ต้องเดินวนไปเวียนมาหาร้านนี้อีกเป็นสิบนาที

พวกเราสั่ง Set แพงสุดไปเร้ย มีทั้งปูขน ปูยักษ์ ปูหิมะ มีสุกี้ปูที่พอกินหมดแล้ว จะมีคนมาปรุงข้าวต้มจากน้ำซุปที่เหลืออยู่ในหม้อ เอาข้าวลง ตอกไข่ตาม และคนๆกวนๆจนกลายเป็นข้าวต้ม(คล้ายโจ๊ก)หอมอร่อย


ใกล้เที่ยงวันที่ 7 สิงหา 56
เช้านี้เรานั่ง Subway มาเที่ยวโรงงาน Chiroikoibito Chocolate Factory
ซื้อตั๋วให้เข้าชมนิทรรศการ ผ่านส่วนที่เป็นโรงงานทำ Chocolate

ด้านนอกมีสวนดอกไม้สวยๆ มีที่ให้เด็ก(เล็ก)เล่น ให้ถ่ายรูป คล้ายๆปราสาทเทพนิยายในสวนสนุก


เมื่อเช้าหลังจากส่งโจโจ้ขึ้นรถไฟ JR ไป Airport พวกเราก็นั่งรถไฟเหมือนกัน แต่จุดหมายของเราคือตลาดปลานิโจ้ จากที่อ่านมาจะมีปลาดิบสดน่ากิน แต่ไปถึงเข้าจริง ไม่เห็นมีร้านอาหารเปิดเลย ยังดีที่ปุ๊ยได้ซื้อหอยเชลล์อบแห้งตัวยักษ์ฝากคุณพ่อได้

ไหนๆเราก็มี Coupon กินอาหารเช้าที่โรงแรม เลยกลับไปกินอาหารเช้าที่โรงแรมซะอิ่มแปร้ (คิดถูกแล้วที่กลับมากิน)

บ่ายๆเรากลับจากโรงงาน Chocolate จะไปกินที่ตลาดปลานิโจ้ แก้ตัวอีกรอบ เพื่อกินข้าวหน้าปลาดิบ ว่ะฮ่ะฮ่ะ!
ส่วนตอนนี้เราขอขมักเขม้นปักหลักทำงานกันอยู่ที่โรงงานช้อคโกแลตต่อก่อนนะ

ดึกวันที่ 7 สิงหา 56
ชั้นเพิ่งอิ่มแปร้จากเนื้อย่างเจงกิสข่านด้านหลังโรงแรม Best Western Fino Sapporo
ร้านไม่ใหญ่ แต่คนกินเยอะเลย
มีแต่เนื้อแกะขาย มีส่วน shoulder น่อง และอะไรอีกอย่าง
อร่อยสุดๆทั้งสามส่วน!!!
 

วันนี้เดินเยอะมากตั้งแต่เช้าที่ไปโรงงาน Chocolate ก็ต้องเดินจากสถานีรถใต้ดิน ไปกลับก็เป็นกิโลๆ
แค่เดินในสถานีก็เมื่อยแล้ว
แล้วก็เดินจากอีกสถานีไปกลับตลาดปลา 2 รอบแน่ะ (รอบเช้า และรอบบ่าย)
ตอนเช้าไปรอบนึง ร้านไม่เปิด เลยไปตอนบ่าย ร้านก็ยังคงเปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ผิดหวัง อาหารก็ไม่ใช่ถูก


อิ่มอร่อยแล้ว เราย่อยอาหารด้วยการเดินเท้าไปดูตึกเก่าแก่ใน Sapporo สองสามแห่ง โดยเดินผ่าน Tower ที่เป็นสถานีส่งคลื่น TV ก่อน

เดินต่อไปยัง Clock Tower

เดินต่อไปตึกแดง Old Government Building 
ไม่มีไรทำก็โดดๆกันไป

แล้วก็เดินอีกเป็นกิโลๆไป Hokkaido University รวมทั้งเดินรอบมหาวิทยาลัยซะอีก 1 รอบใหญ่


ในมหาวิทยาลัยร่มรื่นมาก
แล้วก็เดินย้อนกลับไปช้อปปิ้งกันที่ Shopping Mall ในสถานี JR Sapporo
เดินกลับมาโรงแรม
เมื่อยมากกกก….

กินอิ่มแล้ว ยังไปเดินย่อยถึง JR Station กินนมร้อนที่ร้าน Mister Donut อีกแก้ว ก่อนเดินกลับโรงแรมมาอาบน้ำสระผม เข้านอน

หมายเหตุ - ตอนนี้ขอไม่เล่าข้อมูลสถานที่แต่ละแห่งมาใส่ให้อ่านนะจ๊ะ ไม่งั้นไม่จบกันพอดี เอาไว้ค่อยเล่าให้ฟังเพิ่มเติม Later ^_^

ตอนที่ 5 (ตอนจบ)
Summer in Hokkaido (5/5) : Shopping ส่งท้าย ใน Sapporo